1.Abandoned Medieval Town of Balestrino, Italy
ไม่แน่ใจว่าสถานที่แห่งนี้ใครเป็นผู้เริ่มสร้าง แต่ในปี1100
สำนักสงฆ์Benedictineแห่งSan Pietro dei
Montiได้กล่าวอ้างถึงความเป็นเจ้าของ จริงๆแล้วมีหลายประเทศสร้างมันขึ้นมา
คงเป็นเพราะภาวะสงครามในสมัยก่อน มีการแย่งอาณานิคมกัน
ปัจจุบันจะพบเห็นปราสาทที่อยู่ส่วนบนสุดของเมืองและซากกำแพงเมืองที่ยาว
เยียดตลอดจนต้นมะกอกที่เรียงรายกันโดยรอบถือได้ว่าเป็นเมืองที่สวยงามแห่ง
หนึ่ง
ส่วนเหตุที่ต้องกลายเป็นเมืองร้างปราศจากผู้คนเพราะเหตุแผ่นดินไหวนั่นเอง
2.Abandoned City & Commune of Oradour, France ในช่วงจุดเดือดของสงครามโลกครั้งที่สอง
จากคำบอกเล่าของนายทหารเยอรมันผู้หนึ่ง
นี่เป็นผลพวงจากความโหดร้ายในการสังหารหมู่
เด็กๆและผู้หญิงถูกต้อนราวกับฝูงแกะเข้าไปในโบสถ์ และถูกเผาทั้งเป็น
ส่วนผู้ชายก็ถูกทรมานด้วยการยิงที่ขา ให้ตายอย่างช้าๆในโรงนา
ปัจจุบันซากของเมืองเก่ายังคงมีให้เห็นอยู่ในความทรงจำของวันที่โหดร้าย
และชาวเมืองOradousได้ย้ายถิ่นฐานของตนไปยังเมืองใกล้ๆ
คงเหลือไว้แต่เพียงซากความทรงจำที่แสนเจ็บปวด
3.Abandoned Island City of Hashima, Japan ฮาชิม่า
เป็นเกาะร้างที่มีชื่อเสียงที่สุดในบรรดาเกาะร้างร้อยเกาะของญี่ปุ่น
ชื่ออีกชื่อหนึ่งก็คือเกาะเรือรบ
สาเหตุที่ได้ชื่อนี้มาจากเมื่อครั้งสมัยสงครามโลกครั้งที่สอง
ตอนที่ทหารสหรัฐบุกโจมตีทางน้ำดันไปเห็นเจ้าเกาะนี้ลอยน้ำอยู่ในลักษณะคล้าย
กับเรือรบลำใหม่
ทำให้เหล่าทหารสหรัฐต่างพากันกลัว(ที่ไหนได้มันเป็นแค่เกาะเท่านั้น)สาเหตุ
ที่ทำให้ที่นี่กลายเป็นเกาะร้าง ผมเองก็ยังไม่รู้เหมือนกัน
ไว้มีโอกาศจะมาบอกอีกที(แต่รู้สึกว่าเหมือนมีใครเคยเอาเรื่องนี้มาลงแล้วนะ)
แต่ที่แน่ๆเหมือนกัยว่าทางรัฐบาลญี่ปุ่นกำลังจะปรับปรุงพื้นที่ให้เป็นแหล่ง
ท่องเที่ยวแห่งหนึ่ง แต่อย่าบุกรุกเข้าไปละครับ มันผิดกฏหมาย
4.Abandoned Desert Ghost Town of Kolmanskop, Africa Kolmanskopเมืองร้างที่อยู่ในทวีปแอฟริกาที่เต็มไปด้วยซากสถาปัตยกรรมสไตล์
เยอรมัน ลักษณะเมืองเหมือนดังเช่นในเยอรมันทั่วๆไป มีโรงพยาบาล โรงเรียน
สถานีไฟฟ้าโรงหนังและยังมีคาสิโนอีกด้วย
ที่นี่เคยเป็นแหล่งค้าเพช็รที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในแอฟริกาด้วย
แต่หลังจากตลาดเพช็รแห่งนี้เกิดประสบปัญหาบางอย่าง
ชาวเมืองก็ต่างพากันอพยพออกไป
ทิ้งไว้เพียงร่องรอยแห่งความเจริญที่ตกอยู่ภายใต้ผืนทรายเท่านั้น
5.Abandoned Area of Varosha, Cyprus แต่เดิมพื้นที่แห่งนั้นมักจะมีปัญหาความขัดแย้งกันรหว่างประเทศ
เดิมใช้ชื่เรียกว่าFamagustaและถูกสร้างเป็นรีสอร์ทสำหรับนักท่องเที่ยว
แต่ในปี1970ตุรกีได้บุกรุกและอ้างสิทธิพื้นที่ท่องเที่ยวแห่งนี้เป็นของตัว
เอง และได้สร้างรั้ว ติดป้ายคำเตือนต่างๆโดยรอบ
แต่หลังจากนั้นพื้นที่ก็ไม่ได้ถูกใช้งานอะไรเลย
จนปล่อยให้ร้างและทรุดโทรมลง
6.Abandoned Gulag Concentration Camp ค่ายกักกันGulagตั้งอยู่ในประเทศรัสเซีย(คาดว่าน่าจะอยู่ในสมัยของนายพลสตา
ลิน)
ที่แห่งนี้ถูกใช้เป็นที่สำหรับปฏิบัติงานและคุมขังนักโทษและมีซากของคนตาย
เกลื่อนไปหมด นั่นแหละครับเหตุผลที่ทำให้มันร้างในปัจจุบัน(ใครจะไปอยู่ล่ะ)
7.Abandoned Town of Centralia, Pennsylvania ส่วนเมืองนี้ผมแปลไม่ค่อยออก เหมือนกับว่าเมืองจะมีปัญหาต่างๆเช่น
มีกลุ่มควันแก๊สพุ่งขึ้นมาบนทางหลวง
อุณหภูมิน้ำที่สูงผิดปกติเลยทำให้ชาวเมืองค่อยๆอพยพออกไป
ภาพอดีตและปัจจุบัน8.Abandoned Flooded City of Quabbin, Massachusetts อ่างเก็บน้ำQuabbinเป็นอ่างเก็บน้ำที่ใหญ่ที่สุดในเมืองMassachusetts
บริเวณนี้ยังประกอบด้วยเมืองเล็กๆอีก4เมืองและยังมีถนน รางรถไฟ
อาคารสาธารณะ อนุสาวรีย์ และหลุมศพ ซึ่งเคยถูกน้ำท่วมอย่างหนัก
9.Abandoned War-Torn City of Agdam, Azerbaijan หนึ่งในเมืองของAzerbaijanที่มีความหนาแน่นของประชากรและความเจริญ
รุ่งเรืองโดยการยึดครองของชาวอาเมเนียน
แต่ในที่สุดก็ไม่พ้นที่จะต้องกลายเป็นเมืองร้างเพราะพิษสงคราม
ปัจจุบันยังมีนักผจญภัยทั้งหลายคอยเข้าไปเก็บภาพสิ่งที่เหลือของชาวเมืองนี้
ก่อนที่จะไม่มีใครได้เห็นมันอีก
10.Abandoned Resort Town of Yashima, Japan เมืองYashimaอยู่ในเขตพื้นที่ราบสุงของของเกาะแห่งหนึ่งในยี่ปุ่น
ในปีค.ศ.1980ขณะที่เสรษฐกิจของญี่ปุ่นอยู่ในจุดที่สูงสุด
นักลงทุนต่างพากันมาสร้างรีสอร์ทขนาดใหญ่ที่นี่
บนเกาะเล็กๆแห่งนี้เต็มไปด้วยรีสอร์ทที่พักถึง6แห่งร้านค้าต่างมากมาย
แต่ในที่สุดก็มาถึงจุดพลิกผันเมื่อนักลงทุนล้มละลายเพราะไม่สามารถดึงลูกค้า
ต่างชาติไว้ได้
หมู่บ้านจึงถูกปิดตัวลงและทิ้งทุกอย่างไว้ไม่ว่าจะเป็นของในร้านค้า
เฟอร์นิเจอร์ต่างๆและเศษซากต่างๆไว้
11.Abandoned Disaster City of Beichuan, China การทำลายล้างอย่างฉับพลันของแผ่นดินไหว
ทำให้ตึกต่างๆในเมืองBeichuanในประเทศจีนต้องพังพินาศ ผู้คนนับพันต้องตาย
อีกราว1หมื่นคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย
ขอบเขตของความเสียหายที่มากเกินจนไม่สามารถสร้างเมืองขึ้นใหม่ได้ในที่เดิม
จนต้องปล่อยให้กลายเป็นเมืองแห่งซากปรักหักพังต่อไป
12.Abandoned Ghost Town of Cairo, Illinois เมืองCairoถูกสร้างขึ้นในยุคกลางของศตวรรษที่19
เป็นแหล่งที่ให้บริการเรือขนส่งทางอุตสาหกรรมและเป็นจุดแลกเปลี่ยนสินค้าที่
สำคัญอีกด้วย
ยังไม่พอยังเป็นฐานปฏิบัติงานของทหารในยุคสงครามกลางเมืองอีกด้วย
แต่แล้วในปี1920จนกระทั่งปี2000จำนวนประชากรในเมืองลดลงอย่างน่าใจหาย
จากประชากรราว15,000คนลดลงเหลือเพียง2,000คน
แต่ผู้คนที่ยังเหลืออยู่ยังคงรักษาอาคารก่อสร้างและส่วนต่างๆไว้ในรูปแบบ
เดิม(สรุปคือเกือบร้าง เพราะประชากรเหลือน้อย)
13.Deserted Floating City of Oily Rocks, Azerbaijan ชายฝั่งทะเลของประเทศAzerbaijanที่มีความเจริญเติบโตจากอุตสาหกรรมน้ำมันดิบ
ที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลกก็ว่าได้
จนทำใหบริเวณนี้กลายเป็นเมืองที่มั่งคั่งไปด้วยบ้านเรือนผู้คน โรงเรียน
ห้องสมุดประชาชน ร้านค้า
และสิ่งอำนวยความสะดวกให้แก่พนักงานและครอบครัวของพวกเขา
เพราะภูมิสภาพเป็นดังแผ่นเหล็กลอยน้ำจึงทำให้บางส่วนเริ่มจมลงและถูกคลื่น
ทะเลซัด
แต่ไม่ถึงกับทั้งหมดทีเดียวเพราะยังเหลือร่องรอยที่ถูทิ้งให้รกร้างไว้ดู
ต่างหน้าอยู่
14.Deserted Village of Villa Lago Epecun, Argentina หลังจากการเปลี่ยนแปลงของสายน้ำอย่างถาวร Villa Lago
Epecunถึงตกอยู่ในสภาพเมืองบาดาลอยู่นาน
จนหลังจากระดับน้ำลดลงจนทำให้เห็นสภาพของซากอาคารต่างๆและตันไม้ที่เรียงราย
กันเป็นแนว
ถึงแม้ว่าจะผ่านพ้นเหตุการณ์นี้ไปแล้วแต่ก็ไม่มีชาวเมืองคนใดหวนกลับมาใช้
ชีวิตที่หมู่บ้านนี้อีกเลย
15.Deserted Town of Castelnuovo de' Sabbioni, Italy หมู่บ้านร้างที่น่าพิศวงแห่งCastelnuovo de' Sabbionประเทศอิตาลี
ตั้งอยู่บนภูเขาเล็กๆใกล้กับเมืองArezzo ส่วนเรื่องสาเหตุของมัน
นี่ก็ไม่รู้เหมือนกันครับ เพราะเหมือนว่ามันยังเป็นปริศนาอยู่
16.Deserted Walled Medieval Town of Craco, Italy เมืองร้างที่ถูกปิดรอบไปด้วยกำแพงในยุคกลางของเมืองCraco
เมืองที่ตั้งอยู่บนหน้าผาสูง400ฟุต ถูกสร้างขึ้นศริสต์ศักราช500
แต่ดังต้องคำสาป เมืองแห่งนี้ถูกภัยพิบัติ
ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้งที่ทำให้ผลิตผลทางการเกษตรไม่ดี การถูกโจรปล้นบ้านเรือน
และ
สุดท้าย การเกิดแผ่นดินไหวที่เป็นเหมือนลางร้ายที่นำพาให้เมืองล่มสลาย
ในปี1960 ประชากรกลุ่มสุดท้ายได้อพยพออกไปเพราะเกรงกลัวแผ่นดินไหว
17.Wild West Ghost Town of Bodie, California เมืองBodieรัฐCalifornia
เป็นหัวใจสำคัญของชายแดนแห่งเมืองตะวันตกที่มีร้านประเภทSaloon12แห่ง
แถมยังมีย่ายไชน่าทาวน์อีกด้วย เมืองที่มีกลิ่นอายของคาวบอย
การทะเลาะวิวาทกันในบาร์ การปล้นรถม้าโดยสาร
และอื่นๆสารพัดตามสไตล์ตะวันตกเพราะเหตุนี้ทำให้ชาวเมืองทยอยจากไป
ตลอดระยะเวลาการก่อตั้งเมืองความเจริญรุ่งเรืองมาสิ้นสุดในศตวรรษที่20
แต่ปัจจุบันได้รับการพื้นฟูสภาพตัวเมืองให้ใกล้เคียงกับอดีตมากที่สุด
18.Deserted Ghost City of Humberstone, Chile Humberstoneถูกสร้างขึ้นรอบอุตสาหกรรมการขุดแร่ โซเดียมและดินประสิว
ขณะนั้นเศรษฐกิจของชาวอเมริกันอยู่ในช่วงตกต่ำสุดๆ
และต่อมาเศรษฐกิจค่อยๆพื้นตัวขึ้นและความสนใจในอุตสาหกรรมที่เมืองนี้ทำอยู่
ก็ลดน้อยลง ที่แห่งนี้ก็เลยถูกปล่อยให้รกร้างลง
19.Deserted Mining Town of Pyramiden, Sweden ย่านอุตสาหกรรมถ่านหินของสวีเดนที่ถูกขายทอดต่ออดีตสหภาพรัสเซียก่อนคริสต์
ศักราช1920
ภายหลังรัสเซียประก่ศว่าเมืองนี้ไม่มีความจำเป็นและไม่มีผลผลิตตามที่รัฐบาล
ตั้งเป้าหมายไว้ ประชากรทั้งหมดก็ถูกถอดทัพออกไปอย่างฉับพลัน
20.Deserted Mining Town of Sewell, Chile เมืองSewellถูกสร้างขึ้นมาอย่างซับซ้อนในเทือกเขาแอนดิสในประเทศชิลี
และเคยเป็นบ้านพักของคนงานกว่า15,000คน
การเดินทางต้องทางรถไฟแล้วต่อด้วยการเดินเท้า
ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าด้วยการเดินทางที่แสนไกลนี้จะทำให้กลายเป็นเมืองร้างรึ
เปล่า
แต่ที่สำคัญข้างใต้เมืองนี้ยังครอบคลุมไปด้วยเหมืองแร่ทองแดงที่ใหญ่ที่สุด
ในโลกด้วย
21.Abandoned Mountain Town of Sardinia, Italy ประวัติมันน้อยเกินไปจนไม่ได้ใจความสำคัญ(และก็แปลไม้รู้เรื่องด้วยครับ)
เลยขอข้ามไปก่อน
22.Deserted Resort Village of San Zhi, Taiwan เรื่องจริงของหมู่บ้านร้างแห่งนี้ยังไม่มีใครรู้แน่ชัด
ผู้สร้างพยายามสร้างหมู่บ้านนี่ให้เป็นที่พักในวันหยุดเป็นบ้านพักที่อยู่บน
น้ำอีกด้วย แต่อย่างไรก็ตาม การก่อสร้างก็ดันมีปัญหาในตอนสุดท้าย
ชิ้นส่วนไฟเบอร์กลาสที่ใช้ในการก่อสร้างบ้านทรงจายบินเหล่านี้เกิดผุกร่อนลง
และทำให้บางส่วนมันพังลงมา
ชาวบ้านละแวกนั้นเชื่อว่าสถานที่ตั้งแห่งนั้นมีอาถรรพ์เลยทำให้ไม่มีใครกล้า
เข้ามาอีก
23.Deserted Walled City of Kowloon, Hong Kong จากสภาพเมืองที่เป็นเหมือนกำแพง ไม่มีแสงและอากาศบริสุทธ์ถ่ายเท
ความแออัดจนทำให้เกิดปัญหาต่างๆมากมายเช่นอาชญากรรม
จนในที่สุดรัฐบาลมีคำสั่งให้ถอดถอนอพยพคนออกไป
24.Ancient Sunken City of Alexandria, Egypt เมืองแห่งประวัติศาสตร์ของAlexandriaที่หายสปจนไปกว่า1,600ปี
ไม่ว่าจะเป็นละครเวทีที่มีชื่อเสียงในประวัติศาสตร์ของที่เกี่ยวเนื่องกับ
Cleopatra, Julius Caesar,
MarcAntonyและOctaviusล้วนถูกจมหายภายใต้กระแสน้ำ
นักโบราณคดีค้นพบว่าทุกสิ่งจมอยู่ใต้น้ำหลังจากเกิดแผ่นดินไหวและคลื่นสึนา
มิ สถานที่แห่งนี้เคยมีประชากรถึง500,000คน
ถ้าจะบันทึกประวัติศาสตร์แห่งนี้อาจต้องใช้บัญชีหางว่าวมากกว่า7แสนเล่ม
ขอบคุณ :
http://dek-d.com/board/view.php?id=1588983